ประเภทของกระดาษที่ใช้ผลิตกล่อง : เลือกอย่างไรให้คุ้มค่าและเหมาะกับธุรกิจ

การทำธุรกิจออนไลน์หรือออฟไลน์ ทุกครั้งที่ต้องส่งสินค้าหรือบรรจุสินค้า สิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญมากที่สุดคือ กล่อง เพราะกล่องไม่ได้เป็นเพียงแค่สิ่งที่ห่อหุ้มสินค้า แต่ยังเป็นด่านแรกที่ลูกค้าสัมผัสกับแบรนด์ของคุณ คุณภาพของกล่องบ่งบอกถึงความใส่ใจ ความเป็นมืออาชีพ และยังช่วยสร้างความมั่นใจว่าสินค้าจะไปถึงปลายทางอย่างปลอดภัย

สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือ กล่องไปรษณีย์หรือกล่องบรรจุภัณฑ์ที่เราเห็นกันทุกวันนั้น ผลิตจาก กระดาษลูกฟูก ซึ่งมีกระดาษหลายประเภท หลายเกรด หลายสี และหลายลอน แต่ละแบบมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เหมาะกับการใช้งานที่ไม่เหมือนกันเลย การเลือกให้ถูกจึงช่วยทั้งลดต้นทุน และปกป้องสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  ประเภทของกระดาษที่ใช้ทำกล่อง

กระดาษลูกฟูกมักประกอบด้วยกระดาษ 2-5 ชั้น โดยมีทั้ง กระดาษผิว (Liner) และ กระดาษลอน (Fluting) ซึ่งเป็นตัวกำหนดความแข็งแรงหลัก

1. กระดาษ KA (กระดาษน้ำตาลใหม่)

• คุณสมบัติ: ทำจากเยื่อกระดาษใหม่ 100% มีความเหนียว แข็งแรง และทนแรงกดได้ดี
• การใช้งาน: เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือสินค้ามูลค่าสูง
• ข้อดี: คุณภาพสูง ทนแรงกดและกันความชื้นได้ดีกว่ากระดาษรีไซเคิล
• ข้อที่ต้องพิจารณา: ราคาสูงกว่ากระดาษประเภทอื่น
  

2. กระดาษ KI (กระดาษน้ำตาลรีไซเคิลผสม)

• คุณสมบัติ: ผลิตจากเยื่อกระดาษรีไซเคิลผสมกับเยื่อใหม่เล็กน้อย แข็งแรงพอสมควร กระดาษคุณภาพดี นำเข้า เน้นความเหนียวและทนทาน
• การใช้งาน: ใช้แพร่หลายกับกล่องทั่วไป เหมาะกับกล่องที่ต้องการความสวยงาม เช่น เสื้อผ้า หนังสือ หรือของเบา ๆ
• ข้อดี: ราคาถูก คุ้มค่า เหมาะกับธุรกิจที่ต้องส่งสินค้าจำนวนมาก
• ข้อที่ต้องพิจารณา: ความแข็งแรงสู้ KA ไม่ได้
  

3. กระดาษ KB (กระดาษน้ำตาลรีไซเคิล)

• คุณสมบัติ: ผลิตจากเยื่อรีไซเคิลเกือบทั้งหมด ราคาย่อมเยา
• การใช้งาน: เหมาะกับกล่องที่บรรจุของเบา ๆ และไม่เปราะบาง เช่น ของใช้ทั่วไป
• ข้อดี: ราคาถูกที่สุด ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการลดต้นทุน
• ข้อที่ต้องพิจารณา: ไม่เหมาะกับสินค้าที่มีน้ำหนักมากหรือแตกหักง่าย
  

4. กระดาษ KC (กระดาษน้ำตาลรีไซเคิลคุณภาพต่ำ)

• คุณสมบัติ: เน้นราคาประหยัดมากที่สุด แข็งแรงน้อยที่สุด
• การใช้งาน: มักใช้ทำกล่องบรรจุชั่วคราว หรือสินค้าน้ำหนักเบามาก
• ข้อดี: ราคาต่ำ
• ข้อที่ต้องพิจารณา: เสี่ยงต่อการฉีกขาด ไม่เหมาะกับการขนส่งสินค้าที่ต้องการความปลอดภัยสูง
  

5. กระดาษ KS (กระดาษขาว)

• คุณสมบัติ: เป็นกระดาษสีขาว ผิวเรียบ เหมาะกับงานพิมพ์ที่ต้องการความสวยงาม
• การใช้งาน: กล่องไปรษณีย์พิมพ์แบรนด์ หรือกล่องพรีเมียม
• ข้อดี: ช่วยสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ ดูหรูหรา
• ข้อที่ต้องพิจารณา: ราคาสูงกว่ากระดาษน้ำตาลทั่วไป

  ปะเภทของลอนกระดาษ

ลอน คือโครงสร้างคลื่นที่อยู่ระหว่างกระดาษ 2 แผ่น ทำหน้าที่ดูดซับแรงกระแทก แบ่งออกได้หลายแบบ เช่น

• ลอน A หนา แข็งแรง ซับแรงได้ดี เหมาะกับสินค้าที่เปราะบาง
• ลอน B บางกว่า แต่แข็งแรงต่อแรงกดทับ เหมาะกับกล่องขนส่ง
• ลอน C ความหนาปานกลาง ระหว่าง A และ B เหมาะกับกล่องเอนกประสงค์
• ลอน E บางและละเอียด เหมาะกับงานพิมพ์สวย ๆ เช่น กล่องเครื่องสำอาง
• ลอน BC (5 ชั้น) ใช้กระดาษ 5 ชั้นเพื่อรับน้ำหนักมาก เหมาะกับสินค้าหนัก เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์

  สีของกระดาษที่ใช้ทำกล่อง

สีน้ำตาล (Kraft Paper)

• สีมาตรฐานของกล่อง
• ดูแข็งแรง เป็นทางการ
• นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากต้นทุนต่ำและหาซื้อง่าย
  

สีขาว

• เหมาะกับการทำกล่องพิมพ์โลโก้ หรือกล่องสินค้าแบรนด์
• ดูพรีเมียม สะอาดตา
• ต้นทุนสูงกว่าสีน้ำตาล
  

สีพิเศษ (เช่น สีดำ สีพาสเทล)

• นิยมใช้กับกล่องของขวัญ กล่องพรีเมียม หรือสินค้ากลุ่มแฟชั่น
• เน้นการสร้างภาพจำและความแตกต่าง

การเลือกใช้กระดาษทำกล่องไปรษณีย์ไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่คือการตัดสินใจที่ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยของสินค้า ต้นทุนธุรกิจ และความเชื่อมั่นของลูกค้า การรู้จักประเภทของกระดาษ สี และลอนที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณเลือกกล่องได้ตรงตามความต้องการ ทั้งประหยัดและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์

ครบ จบ เรื่องกล่องและอุปกรณ์แพ็ค ที่ SN Interpack โรงงานบรรจุภัณฑ์ครบวงจร ที่พร้อมผลิตกล่องคุณภาพทุกขนาด ทุกประเภท ส่งตรงถึงมือคุณ  เลือกชมสินค้าของเรา